ดินเค็มภาษาอังกฤษ: การแปลและความหมายในวิธีง่ายๆ

โครงการพระราชดำริในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง -  โครงการสาธิตการปลูกพืชในพื้นที่ดินเค็มอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.ตาจั่น  อ.คง จ.นครราชสีมา

ดินเปรี้ยว/ดินเค็ม เป็นอย่างไร เเก้ไขอย่างไร?

Keywords searched by users: ดินเค็มภาษาอังกฤษ: การแปลและความหมายในวิธีง่ายๆ ดินเค็มเกิดจากอะไร, ดินเค็ม วิธีแก้, Alkaline soil

ความหมายของดินเค็ม

โครงการพระราชดำริในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง -  โครงการสาธิตการปลูกพืชในพื้นที่ดินเค็มอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.ตาจั่น  อ.คง จ.นครราชสีมา
โครงการพระราชดำริในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง – โครงการสาธิตการปลูกพืชในพื้นที่ดินเค็มอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.ตาจั่น อ.คง จ.นครราชสีมา

ความหมายของดินเค็มคืออะไร?

ดินเค็มคือประเภทของดินที่มีเกลือละลายอยู่ในสารละลายดินในปริมาณมากกว่าปกติ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของพืช [1]. ดินเค็มมักเกิดจากน้ำใต้ดินที่มีสารละลายเกลือมากเกินไป ทำให้ดินในบริเวณนั้นมีความเค็มสูง ซึ่งส่งผลให้พืชไม่สามารถเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่ ลำต้นของพืชอาจแคระแกร็น และผลผลิตที่ได้ก็จะมีปริมาณน้อยลง เนื่องจากธาตุอาหารในดินขาดความสมดุล และพืชยังต้องเผชิญกับความเป็นพิษจากโซเดียมและคลอไรด์ที่อยู่ในดิน [2].

วิธีการสังเกตดินเค็ม

  1. บริเวณที่ไม่ห่างจากฝั่งทะเลมากนักและเคยเป็นพื้นที่ที่ถูกน้ำทะเลท่วมถึงมาก่อน [2].
  2. พบพืชที่สามารถทนเค็มได้ดีขึ้นอยู่บนพื้นที่ดินเค็ม เช่น ชะคราม จาก แสม โกงกาง ลำแพน ลำพูน เหงือกปลาหมอ หนามแดง หญ้าทนเค็มบางชนิด [2].
  3. บนผิวดินมักพบคราบเกลือสีขาวหรือเนื้อดินฟุ้งกระจาย เมื่อเปียกน้ำจะพองตัว เนื่องจากดินมีเกลือโซเดียมคาร์บอเนตสูง บางแห่งเป็นดินแน่นทึบไม่มีพืชขึ้นอยู่เลย [2].
  4. พืชที่ปลูกบริเวณดินเค็มจะตายเป็นหย่อม ๆ อาการของพืชที่ได้รับผลกระทบจากดินเค็มปรากฏให้เห็นซึ่งเกิดจากผลของความเค็ม เช่น ขอบใบจะไหม้ พืชแคระแกร็น ไม่เจริญเติบโต [2].
  5. ชิมดินและน้ำ เมื่อมีรสกร่อยแสดงว่ามีอันตรายต่อพืช หรือน้ำเปลี่ยนสีเป็นสความหมายของดินเค็มคืออะไร?

ดินเค็มคือปัญหาที่พบได้ในการเกษตรและการเจริญเติบโตของพืชอย่างแพร่หลายในทั่วโลก ดินเค็มเกิดจากการสะสมของเกลือในดินที่มากเกินไป ซึ่งส่งผลต่อความสมดุลของธาตุอาหารในดินและการดูดน้ำของพืช ทำให้พืชไม่สามารถเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่ และมีผลผลิตที่ต่ำลง [1].

วิธีการสังเกตดินเค็ม

  1. บริเวณที่ไม่ห่างจากฝั่งทะเลมากนักและเคยเป็นพื้นที่ที่ถูกน้ำทะเลท่วมถึงมาก่อน [2].
  2. บริเวณพื้นที่ดินเค็มมักมีพืชที่สามารถทนเค็มได้ดีขึ้นอยู่ เช่น ชะคราม แสม โกงกาง ลำแพน ลำพูน เหงือกปลาหมอ หนามแดง หญ้าทนเค็มบางชนิด [2].
  3. บนผิวดินมักพบคราบเกลือสีขาวปรากฏอยู่บนผิวดินเป็นหย่อม ๆ หรืออาจพบเนื้อดินฟุ้งกระจาย เม็ดดินแตกสลาย เมื่อเปียกน้ำจะพองตัว เนื่องจากดินมีเกลือโซเดียมคาร์บอเนตสูง บางแห่งเป็นดินแน่นทึบไม่มีพืชขึ้นอยู่เลย [2].
  4. พืชที่ปลูกบริเวณดินเค็มจะมีอาการตายเป็นหย่อม ๆ อาการของพืชจะปรากฏให้เห็นซึ่งเกิดจากผลของความเค็ม เช่น ขอบใบจะไหม้ พืชแคระแกร็น ไม่เจริญเติบโต [2].
  5. ชิมดินและน้ำ เมื่อมีรสกร่อยแสดงว่ามีอันตรายต่อพืช หรือน้ำเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาล [2].

วิธีการแก้ไขดินเค็ม

การจัดการปัญหาดินเค็มมีหลายวิธี และขึ้นอยู่กับสภาพและลักษณะของดินในแต่ละพื้นที่ ดังนั้น การแก้ไขดินเค็มควรจะเป็


Learn more:

  1. มารู้จักดินเค็มกันเถอะ
  2. คู่มือเกษตรกร – รายละเอียด | ปุ๋ยตรามงกุฎ
  3. ดินเค็ม แปลว่าอะไร ดูความหมาย ตัวอย่างประโยค หมายความว่า พจนานุกรม Longdo Dictionary แปลภาษา คำศัพท์

สมบัติและลักษณะของดินเค็ม

Acid Soil แปลว่า? | Wordy Guru
Acid Soil แปลว่า? | Wordy Guru

สมบัติและลักษณะของดินเค็ม

ดินเค็ม (saline soils) เป็นประเภทของดินที่มีความเค็มสูง ซึ่งส่งผลให้เกิดพิษต่อพืช ดินเค็มมักพบคราบผลึกเกลืออยู่ที่ผิวดิน และมีค่าปฏิกิริยาดินน้อยกว่า 8.5 [1] ดินเค็มมีค่าการนำไฟฟ้ามากกว่า 4 เดซิซีเมนต์ต่อเมตร ที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส [1] นอกจากนี้ ดินเค็มยังมีค่าร้อยละโซเดียมที่แลกเปลี่ยนได้น้อยกว่า 15 หรือมีค่าอัตราส่วนการดูดซับโซเดียมน้อยกว่า 13 [1].

ลักษณะของดินเค็มมักจะแตกต่างไปตามพื้นที่และสภาพแวดล้อม ดินเค็มมักมีสีขาวหรือเทา และมีลักษณะเป็นเม็ดขนาดเล็ก โดยมีความแน่นที่สูง ดินเค็มมักมีความชื้นน้อยและมีความแห้งและแข็งตลอดเวลา นอกจากนี้ ดินเค็มยังมีกลิ่นเค็มเป็นพิเศษ [1].

การเกิดดินเค็มส่วนใหญ่เกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น การระบายน้ำไม่ดี การใช้น้ำที่มีความเค็มสูงในการเกษตรกรรม และการใช้ปุ๋ยหรือสารเคมีที่มีความเค็มสูง [1].

ผลกระทบของดินเค็มต่อพืชมีความหลากหลาย พืชที่ประสบปัญหาจากดินเค็มมักมีการเจริญเติบโตช้าลง ใบพืชอาจมีสีเหลืองหรือสลดลง และผลผลิตที่ได้มีคุณภาพต่ำลง [1].

สำหรับการจัดการดินเค็ม เราสามารถทำได้โดยการใช้วิธีการชดเชยความเค็มในดิน เช่น การใช้น้ำจืดในการรดน้ำเพื่อล้างความเค็มออกจากดิน การใช้ปุ๋ยหรือสารเคมีที่มีความเค็มต่ำ และการปรับปรุงการระบายน้ำในพื้นที่ [1].


Learn more:

  1. การศึกษาลักษณะและสมบัติดินบางประการในพื้นที่เกษตรกรรม

สาเหตุที่เกิดดินเค็ม

ดินเค็ม - รวมข่าวเกี่ยวกับ
ดินเค็ม – รวมข่าวเกี่ยวกับ “ดินเค็ม” เรื่องราวของดินเค็ม

สาเหตุที่เกิดดินเค็ม

ดินเค็มเกิดขึ้นเนื่องจากการสะสมของเกลือในดิน ซึ่งเกลือประกอบด้วยธาตุที่มีประจุบวกเช่นโซเดียม (Na+) แมกนีเซียม (Mg2+) และแคลเซียม (Ca2+) รวมกับธาตุที่มีประจุลบเช่นคลอไรด์ (Cl-) ซัลเฟต (SO42-) ไบคาร์บอเนต (HCO3-) และคาร์บอเนต (CO32-) [1].

สาเหตุที่เกิดดินเค็มสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภทได้ดังนี้:

  1. การขึ้นลงของน้ำทะเล: สภาพภูมิอากาศและการขึ้นลงของน้ำทะเลสามารถเป็นสาเหตุให้เกิดดินเค็มได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่อยู่ใกล้ฝั่งทะเล น้ำทะเลที่ขึ้นลงมาจะมีเกลือปริมาณมาก ซึ่งจะสะสมในดินและทำให้ดินเค็ม [1].

  2. การระบายน้ำไม่เพียงพอ: การระบายน้ำไม่เพียงพอทำให้น้ำที่มีเกลือสะสมในดินไม่สามารถไหลออกไปได้ ซึ่งจะทำให้เกิดการสะสมของเกลือในดินและทำให้ดินเค็ม [1].

  3. การใช้น้ำที่มีเกลือสูง: การใช้น้ำที่มีเกลือสูงในการเพาะปลูกหรือใช้ในการเกษตรกรรมอาจทำให้เกิดการสะสมของเกลือในดิน ซึ่งจะทำให้ดินเค็ม [1].

ผลกระทบของดินเค็ม

ดินเค็มสามารถมีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของพืชได้ ซึ่งผลกระทบเหล่านี้สามารถสังเกตได้จากอาการของพืชและสภาพดิน [2]:

  1. การเจริญเติบโตของพืชที่ชะงัก: พืชที่ปลูกในดินเค็มอาจมีการเจริญเติบโตช้าลง ลำต้นอาจแคระแกร็นและให้ผลผลิตต่ำ เนื่องจากธาตุอาหารในดินขาดความสมดุล และพืชขาดน้ำจากความเป็นสาเหตุที่เกิดดินเค็ม

ดินเค็มเกิดขึ้นเนื่องจากการสะสมของเกลือในดิน โดยส่วนใหญ่เกลือที่พบในดินเค็มประกอบด้วยโซเดียม (Na) และคลอไรด์ (Cl) [1]. สาเหตุที่เกิดดินเค็มสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภทได้ดังนี้:

  1. การขึ้นลงของน้ำทะเล: สภาพภูมิประเทศที่ติดชายทะเลหรือทะเลเค็มมีโอกาสเกิดดินเค็มสูง เนื่องจากน้ำทะเลที่มีเกลือสูงสามารถเข้าสู่บริเวณดินได้ผ่านทางน้ำฝนหรือน้ำท่วม [1].

  2. การระบายน้ำไม่เพียงพอ: การระบายน้ำไม่เพียงพอทำให้น้ำที่มีเกลือสูงสะสมในดิน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการระบายน้ำช้า หรือมีการระบายน้ำผิดวิธี [1].

  3. การใช้น้ำเค็มในการเกษตรกรรม: การใช้น้ำที่มีเกลือสูงในการเพาะปลูกพืชอาจทำให้เกิดการสะสมของเกลือในดิน [1].

  4. การใช้ปุ๋ยเคมีที่มีเกลือสูง: การใช้ปุ๋ยเคมีที่มีเกลือสูงในปริมาณมากอาจทำให้เกิดการสะสมของเกลือในดิน [1].

ผลกระทบของดินเค็ม

ดินเค็มส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของพืชอย่างมีนัยสำคัญ [2]. พืชที่ปลูกในดินเค็มอาจไม่สามารถดูดธาตุอาหารที่จำเป็นในการเจริญเติบโตได้เต็มที่ ทำให้พืชเจริญเติบโตช้าลง ไม่สามารถออกดอกและออกผลได้ดี และมีโอกาสตายได้ [2]. นอกจากนี้ ดินเค็มยังส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำในพื้นที่นั้น ๆ โดยทำให้น้ำในบริเวณดินเค็มเป็นน้ำเค็ม [2].

การจัดการดินเค็ม

การจัดการดินเค็มเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและต้อ


Learn more:

  1. สภาพปัญหาดินเค็มจัดและการจัดการ – สถานีพัฒนาที่ดินฉะเชิงเทรา
  2. คู่มือเกษตรกร – รายละเอียด | ปุ๋ยตรามงกุฎ

ผลกระทบของดินเค็มต่อพืชและการเกษตร

มลพิษในดิน เกิดจากสาเหตุใดบ้าง และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไร
มลพิษในดิน เกิดจากสาเหตุใดบ้าง และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไร

ผลกระทบของดินเค็มต่อพืชและการเกษตร

ดินเค็มเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการปลูกพืชและการเกษตรอย่างมาก [1]. ดินเค็มมีปริมาณเกลือที่ละลายได้ในสารละลายดินมากเกินไป ทำให้เกิดความไม่สมดุลของธาตุอาหารในดินและเกิดความเป็นพิษของธาตุโซเดียมและคลอไรด์ [1]. ผลกระทบของดินเค็มต่อพืชและการเกษตรได้แก่การเจริญเติบโตของพืชที่ไม่ดี ลำต้นแคระแกรน และการเสื่อมสภาพของดิน [1].

นอกจากนี้ ดินเค็มยังส่งผลกระทบต่อการระบายน้ำในดิน ทำให้เกิดปัญหาในการระบายน้ำและการชะล้างเกลือออกจากดิน [2]. ดินเค็มที่มีปริมาณโซเดียมสูง จะทำให้การระบายน้ำเป็นไปได้ยากขึ้น และเกิดการสะสมเกลือในดิน [2]. นอกจากนี้ ดินเค็มยังส่งผลกระทบต่อคุณภาพของดิน ทำให้ดินแน่นทึบ น้าซึมผ่านได้ยาก และเกิดการฟุ้งกระจายได้ง่าย [2].

การแก้ไขปัญหาดินเค็ม

เพื่อแก้ไขปัญหาดินเค็ม จำเป็นต้องใช้สารปรับปรุงดินเพื่อเพิ่มความสามารถในการระบายน้ำและลดปริมาณเกลือในดิน [2]. สารปรับปรุงดินที่นิยมใช้ในการแก้ไขปัญหาดินเค็มคือยิปซัม [2]. ยิปซัมเป็นสารที่สามารถละลายน้ำและแทรกซึมลงสู่ดินได้ง่าย ทำให้เกิดการแทนที่โซเดียมในดินและลดปริมาณเกลือในดิน [2]. การใช้ยิปซัมในการปรับปรุงดินมีข้อดีดังนี้:

  1. ลดปัญหาความเค็มของดิน: ยิปซัมสามารถเข้าไปแทนที่โซเดียมในดินเค็ม ทำให้โซเดียมถูกชะล้างออกจากดินได้โดยง่าย [2ผลกระทบของดินเค็มต่อพืชและการเกษตร

ดินเค็มเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการปลูกพืชและการเกษตรอย่างมีนัยสำคัญ ดินเค็มคือดินที่มีเกลือที่ละลายได้ในสารละลายดินปริมาณมาก ซึ่งส่งผลให้เกิดความไม่สมดุลของธาตุอาหารในดินและเกิดความเป็นพิษของธาตุโซเดียมและคลอไรด์ [1].

ผลกระทบของดินเค็มต่อพืช:

  1. การเจริญเติบโตของพืชถูกยับยั้ง: พืชที่ปลูกในดินเค็มจะไม่สามารถเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่ ลำต้นอาจแคระแกรนและใบพืชอาจเหลืองแห้งได้ง่าย [1].
  2. การดูดซึมน้ำและธาตุอาหารลดลง: ดินเค็มมีปริมาณเกลือโซเดียมสูง ทำให้พืชไม่สามารถดูดซึมน้ำและธาตุอาหารได้อย่างเพียงพอ ส่งผลให้พืชขาดน้ำและธาตุอาหารที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโต [1].
  3. ความเค็มสูงทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบราก: การปลูกพืชในดินเค็มสูงอาจทำให้รากพืชถูกทำลายหรือเสียหาย ทำให้พืชไม่สามารถดูดซึมน้ำและธาตุอาหารได้อย่างเต็มที่ [1].

การแก้ไขปัญหาดินเค็ม:

  1. การใช้ยิปซัม: ยิปซัมเป็นสารปรับปรุงดินที่มีความสามารถในการละลายน้าและแทรกซึมลงสู่ดินชั้นล่างได้ง่าย ทำให้ดินมีความโปร่งและร่วนซุยมากขึ้น สารยิปซัมสามารถลดปัญหาความเค็มของดิน ลดการแน่นทึบหรือการจับตัวเป็นก้อนของดิน และลดการกร่อนหรือการชะล้างพังทลายของหน้าดิน [2].
  2. การใส่สารปรับปรุงดิน: การใส่สารปรับปรุงดินที่เหมาะสมสามารถช่วยล

Learn more:

  1. ดินเค็ม คือ ดินที่มีเกลือที่ละลายได้ในสารละลายดินปริมาณมาก จน …
  2. การใช้ยิปซัมแก้ปัญหาดินเค็ม – KUBOTA (Agri) Solutions

วิธีการจัดการดินเค็ม

ดินเค็ม - รวมข่าวเกี่ยวกับ
ดินเค็ม – รวมข่าวเกี่ยวกับ “ดินเค็ม” เรื่องราวของดินเค็ม

วิธีการจัดการดินเค็ม

ดินเค็มเป็นปัญหาที่สำคัญในการเกษตรและการเพาะปลูกพืช เนื่องจากสารละลายเกลือในดินทำให้พืชไม่สามารถเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่ และส่งผลต่อผลผลิตที่ต่ำลง ดังนั้นการจัดการดินเค็มเป็นสิ่งสำคัญที่เกษตรกรควรทำเพื่อให้ดินมีคุณภาพที่ดีและสามารถเพาะปลูกพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้คือวิธีการจัดการดินเค็มที่สามารถนำมาใช้ได้:

  1. การช่วยให้น้ำไหลผ่านดิน (Leaching): วิธีนี้เป็นการใช้น้ำให้ไหลผ่านดินเพื่อล้างสารละลายเกลือออกไปจากพื้นที่ที่มีดินเค็ม การใช้น้ำในปริมาณมากจะช่วยล้างเกลือออกไปจากโซนรากของพืช โดยการให้น้ำในปริมาณมากจะช่วยให้เกลือถูกล้างออกไปจากโซนรากของพืช และนำเกลือออกไปในระดับที่ไม่ส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของพืช [1]

  2. การใช้ปุ๋ยอินทรีย์: การใช้ปุ๋ยอินทรีย์เป็นวิธีการที่ดีในการจัดการดินเค็ม เนื่องจากปุ๋ยอินทรีย์ช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน และช่วยเพิ่มสารอินทรีย์ในดิน ซึ่งสามารถช่วยลดความเค็มในดินได้ [2]

  3. การใช้ปุ๋ยเคมี: การใช้ปุ๋ยเคมีเพื่อปรับสภาพดินเค็มเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพ โดยปุ๋ยเคมีที่ใช้บ่อยคือปุ๋ยเคมีที่มีส่วนประกอบของโปแตสเซียม (Potassium) ซึ่งช่วยลดความเค็มในดินและเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับดิน [1]

  4. การใช้เทคนิคการเพาะปลูกพืชที่ทนทานต่อความเค็ม: การเลือกใช้พืชที่มีความทนทานต่วิธีการจัดการดินเค็ม

ดินเค็มเป็นปัญหาที่สำคัญในการเกษตรและการเพาะปลูกพืช เนื่องจากสารละลายเกลือในดินทำให้พืชไม่สามารถเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่ และส่งผลต่อผลผลิตที่ต่ำกว่าความคาดหวัง ดังนั้นการจัดการดินเค็มเป็นสิ่งสำคัญที่เกษตรกรควรทำเพื่อให้พืชเจริญเติบโตและให้ผลผลิตที่มีคุณภาพดี ดังนี้คือวิธีการจัดการดินเค็มที่สามารถนำมาใช้ได้:

  1. การช่วยให้น้ำไหลผ่านดิน (Leaching): วิธีนี้ใช้ในการล้างสารละลายเกลือออกจากดิน โดยการให้น้ำไหลผ่านดินในปริมาณมากเพื่อล้างเกลือออกไป การใช้วิธีนี้ควรใช้น้ำที่มีคุณภาพดีและมีปริมาณเพียงพอ และควรให้น้ำไหลผ่านดินในระยะเวลาที่เหมาะสม [1]

  2. การใช้ปุ๋ยอินทรีย์: การใช้ปุ๋ยอินทรีย์เป็นวิธีที่ดีในการปรับปรุงคุณภาพดิน เนื่องจากปุ๋ยอินทรีย์สามารถช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินและเพิ่มความสามารถในการเก็บรักษาความชื้นของดินได้ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาดินเค็มได้ [2]

  3. การใช้ปุ๋ยเคมี: การใช้ปุ๋ยเคมีที่มีสูตรเหมาะสมสามารถช่วยปรับสภาพดินเค็มได้ โดยเฉพาะปุ๋ยที่มีส่วนประกอบของธาตุอาหารที่ช่วยในการลดความเค็มของดิน เช่น ปุ๋ยสูตร NPK ที่มีสูตรที่เหมาะสมสำหรับพืชที่ต้องการ [2]

  4. การใช้วิธีการเพาะปลูกที่เหมาะสม: การเลือกใช้วิธีการเพาะปลูกที่เหมาะสมสำหรับดินเค็ม เช่นการใช้ระบบน้ำหยดหรือระบบน้ำฝนเทียมในการให้น้ำแก่พืช เพื่อ


Learn more:

  1. ดินแย่… แก้ไขได้ ด้วยวิธีการ แบบนี้!! – ปุ๋ยตรามงกุฎ
  2. คู่มือเกษตรกร – รายละเอียด | ปุ๋ยตรามงกุฎ

การวัดและประเมินความเค็มของดิน

ดินเค็ม - รวมข่าวเกี่ยวกับ
ดินเค็ม – รวมข่าวเกี่ยวกับ “ดินเค็ม” เรื่องราวของดินเค็ม

การวัดและประเมินความเค็มของดินเป็นกระบวนการที่สำคัญในการปรับปรุงคุณภาพดินและการเพาะปลูกพืชให้เหมาะสมกับสภาพดินที่มีความเค็มสูง การวัดความเค็มของดินสามารถทำได้โดยใช้เครื่องมือวัดการนำไฟฟ้าดิน (EC ดิน) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวัดค่าการนำไฟฟ้าในดิน [1].

การวัดความเค็มของดินโดยใช้เครื่องวัด EC ดินจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้มข้นของความเค็มในดิน โดยมีหน่วยความเข้มข้นเป็น dS/m (เดซิซีเมนต์ต่อเมตร) ซึ่งสามารถแปลผลค่า EC ดินได้ตามตารางดังนี้:

  • 0 – 2 dS/m: ไม่เค็ม ไม่ส่งผลกระทบต่อพืช [1].
  • 2 – 4 dS/m: เค็มเล็กน้อย อาจส่งผลกระทบต่อพืชบางชนิดที่ไวต่อค่าความเค็ม [1].
  • 4 – 8 dS/m: เค็มปานกลาง มีผลต่อการเติบโตของพืชหลายชนิด [1].
  • 8 – 16 dS/m: เค็มจัด มีผลต่อการเติบโตของพืชส่วนใหญ่ ยกเว้นพืชที่สามารถเติบโตได้ดีกับสภาพเค็ม [1].
  • 16 dS/m: เค็มรุนแรง เป็นอันตรายต่อพืชทุกชนิด ยกเว้นพืชบางชนิด เช่น หญ้า เป็นต้น [1].

การปรับปรุงดินเค็มเพื่อการเกษตรมีหลายวิธีที่สามารถนำมาใช้ได้ ดังนี้:

  1. การใช้อินทรียวัตถุ: การใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงในดินช่วยเพิ่มอินทรียวัตถุให้กับดิน ซึ่งจะช่วยในการปรับปรุงคุณภาพดินและลดความเค็ม [1].
  2. วางแผนปรับพื้นที่และคูระบายน้ำ: การแบ่งพื้นที่เป็นแปลงย่อยและทำคันดินรอบแปลงย่อยเพื่อลดระดับน้ำใต้ดินและเพิ่มการคูระบายน้ำ [1].
  3. จัดการวัดและประเมินความเค็มของดินเป็นกระบวนการที่สำคัญในการปรับปรุงคุณภาพดินและการเพาะปลูกพืชให้เหมาะสมกับสภาพดินที่มีความเค็มสูง การวัดความเค็มของดินส่วนใหญ่ใช้เครื่องมือวัดการนำไฟฟ้าดินหรือเครื่องวัด EC ดิน [1] เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงปริมาณเกี่ยวกับความเค็มของดินในหน่วยความเข้มข้นของไฟฟ้า (dS/m)

การวัดความเค็มของดินโดยใช้เครื่องวัด EC ดินมีความสำคัญเพราะสามารถใช้เป็นเกณฑ์ในการปรับปรุงคุณภาพดินให้เหมาะสมกับการเพาะปลูกพืชในแต่ละชนิด [1]. ค่า EC ดินที่อ่านได้สามารถแปลผลได้ตามตารางดังนี้:

  • 0 – 2 dS/m: ไม่เค็ม ไม่ส่งผลกระทบต่อพืช
  • 2 – 4 dS/m: เค็มเล็กน้อย อาจส่งผลกระทบต่อพืชบางชนิดที่ไวต่อความเค็ม
  • 4 – 8 dS/m: เค็มปานกลาง มีผลต่อการเติบโตของพืชหลายชนิด
  • 8 – 16 dS/m: เค็มจัด มีผลต่อการเติบโตของพืชส่วนใหญ่ ยกเว้นพืชที่สามารถเติบโตได้ดีกับสภาพเค็ม
  • 16 dS/m: เค็มรุนแรง เป็นอันตรายต่อพืชทุกชนิด ยกเว้นพืชบางชนิด เช่น หญ้า เป็นต้น [1]

การปรับปรุงดินเค็มเพื่อการเกษตรมีหลายวิธีดังนี้:

  1. การใช้อินทรียวัตถุ: ใช้ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยพืชสด แกลบ ใบไม้แห้ง ฟางข้าว ขี้เลื่อยร่วมกับการไถพรวน [1].
  2. วางแผนปรับพื้นที่และคูระบายน้ำ: ปรับพื้นที่แล้วแบ่งเป็นแปลงย่อยทำคันดินรอบแปลงย่อยและทำคูระบายน้ำออกไปให้พ้นแปลงเพื่อลดระดับน้ำใต้ดิน [1].
  3. จัดหา

Learn more:

  1. เครื่องมือวัดความเค็มดิน เครื่องวัดการนำไฟฟ้าดิน เครื่องวัด EC ดิน

การปรับปรุงดินเค็มให้เหมาะสมสำหรับการเพาะปลูก

การปรับปรุงดินเค็มให้เหมาะสมสำหรับการเพาะปลูกเป็นกระบวนการที่สำคัญในการเพิ่มคุณภาพของดินที่มีความเค็มสูงเพื่อให้เหมาะสมกับการเพาะปลูกพืชต่างๆ ดินเค็มมีปัญหาที่สำคัญคือมีความเค็มสูงเกินไปทำให้ไม่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของพืช แต่การปรับปรุงดินเค็มให้เหมาะสมสำหรับการเพาะปลูกสามารถทำได้โดยใช้วิธีการต่างๆ ซึ่งจะถูกอธิบายต่อไปนี้:

  1. การล้างดิน (Leaching): วิธีการนี้เป็นการใช้น้ำในการล้างความเค็มออกจากดิน โดยการรดน้ำให้มีปริมาณมากเพียงพอที่จะล้างความเค็มออกไป น้ำที่ใช้ในการล้างควรมีคุณภาพดีและมีปริมาณเพียงพอที่จะล้างความเค็มออกไป [1].

  2. การใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก: การใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินและลดความเค็ม ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักมีสารอินทรียวัตถุที่ช่วยให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์และร่วนซุยมากขึ้น นอกจากนี้ ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักยังช่วยเพิ่มปริมาณธาตุอาหารในดิน [2].

  3. การใช้วิธีการปรับปรุงดินทางเคมี: วิธีการนี้ใช้สารเคมีเพื่อลดความเค็มในดิน สารเคมีที่ใช้บ่อยคือปูน โดยการใช้ปูนช่วยลดความเป็นกรดของดินและเพิ่มความเป็นด่าง ทำให้ดินมีความเป็นด่างมากขึ้นและลดความเค็ม [2].

  4. การใช้เทคนิคการเพาะปลูกที่เหมาะสม: เลือกใช้พืชที่มีความทนทานต่อความเค็มสูง เช่น พืชที่เป็นพืชทนทานต่อความเค็ม เช่น ถั่วเขียว ถการปรับปรุงดินเค็มให้เหมาะสมสำหรับการเพาะปลูกเป็นกระบวนการที่สำคัญในการเพาะปลูกพืชในพื้นที่ที่มีปัญหาดินเค็ม ดินเค็มเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พืชไม่สามารถเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่ และอาจทำให้พืชตายได้ ดังนั้นการปรับปรุงดินเค็มให้เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้พืชเจริญเติบโตและให้ผลผลิตที่ดีขึ้นได้ [1] [2].

นี่คือขั้นตอนการปรับปรุงดินเค็มให้เหมาะสมสำหรับการเพาะปลูก:

  1. วัดค่าความเค็มในดิน: ใช้เครื่องวัดความเค็มในดินเพื่อวัดระดับความเค็มในดิน ซึ่งจะช่วยให้เราทราบถึงระดับความเค็มของดินและปริมาณเกลือที่มีอยู่ในดิน [1].

  2. การล้างเกลือในดิน: หลังจากที่วัดค่าความเค็มในดินแล้ว ถ้าพบว่าดินมีความเค็มสูง จะต้องทำการล้างเกลือในดิน โดยการใช้น้ำจืดหรือน้ำจากแหล่งน้ำที่มีความเค็มต่ำมาล้างดิน โดยการรดน้ำให้ดินเต็มพื้นที่และรอให้น้ำซึมผ่านดินและล้างเกลือออกไป [1] [2].

  3. การใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก: การใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับดินเค็ม โดยใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงในดินและคลุกเคล้าให้เข้ากัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณธาตุอาหารในดินและเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับดิน [2].

  4. การใช้วิธีการระบายน้ำ: การปรับปรุงดินเค็มให้เหมาะสมสำหรับการเพาะปลูกต้องมีการระบายน้ำที่ดี เพื่อให้น้ำซึมผ่านดินได้ดีและลดความเค็มในดิน สามารถท


Learn more:

  1. ดินแย่… แก้ไขได้ ด้วยวิธีการ แบบนี้!! – ปุ๋ยตรามงกุฎ
  2. แก้ดินเค็ม ปรับปรุงดินไม่ดี ให้อุดมสมบูรณ์และปลูกผักงาม – บ้านและสวน
  3. การใช้ยิปซัมแก้ปัญหาดินเค็ม – KUBOTA (Agri) Solutions

Categories: อัปเดต 21 ดินเค็ม ภาษาอังกฤษ

ดินเปรี้ยว/ดินเค็ม เป็นอย่างไร เเก้ไขอย่างไร?
ดินเปรี้ยว/ดินเค็ม เป็นอย่างไร เเก้ไขอย่างไร?

ดินเค็ม หรือ saline soil คำว่า saline แปล ว่ามีส่วนผสมของเกลือ หรือมีเกลือปะปนอยู่ ซึ่งดินเค็มก็คือดินที่มีปริมาณเกลือละลายอยู่ในดินมากเกินไป ทำให้ดินขาดน้ำ ซึ่งเป็นอันตรายต่อพืช ทั้งยังทำให้ธาตุอาหารของพืชไม่มีความสมดุล

See more: blog https://chungcueratown.net/investment

ดินเค็มเกิดจากอะไร

ดินเค็มเกิดจากอะไร

ดินเค็มหรือ Saline Soil เกิดจากดินที่มีปริมาณของเกลือที่ละลายอยู่ในสารละลายดินมากจนเกินไป [1] ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้:

  1. การระเหยของน้ำ: เมื่อน้ำฝนหรือน้ำที่มีเกลือละลายไหลผ่านดิน และน้ำไหลไปยังชั้นน้ำบาดาล จะทำให้เกิดการเข้มข้นของเกลือในดิน ซึ่งเมื่อน้ำระเหยจากดิน จะทำให้เกลือคงอยู่ในดินและเกิดการสะสมของเกลือในดินเรื่อยๆ [1]

  2. การใช้น้ำเค็มในการเกษตร: การใช้น้ำที่มีความเค็มสูงในการเกษตร อาจทำให้เกิดการสะสมของเกลือในดิน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการใช้น้ำเค็มในการเกษตรเป็นเวลานาน [1]

  3. การใช้ปุ๋ยเคมี: การใช้ปุ๋ยเคมีที่มีปริมาณเกลือสูงในการเพิ่มปริมาณธาตุอาหารในดิน อาจทำให้เกิดการสะสมของเกลือในดิน [1]

  4. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ: การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่น การเพิ่มอุณหภูมิและการลดปริมาณน้ำฝน อาจทำให้เกิดการระเหยของน้ำมากขึ้น และเกิดการสะสมของเกลือในดิน [1]

วิธีแก้ปัญหาดินเค็ม

การแก้ปัญหาดินเค็มสามารถทำได้โดยใช้วิธีต่างๆ ซึ่งได้แก่:

  1. การใช้น้ำจืดหรือน้ำที่มีความเค็มต่ำในการเกษตร: การใช้น้ำจืดหรือน้ำที่มีความเค็มต่ำในการเกษตร จะช่วยลดปริมาณเกลือในดินและช่วยให้ดินกลับมาสภาพปกติได้ [1]

  2. การใช้วิธีการชลประทาน: การใช้วิธีการชลประทาน เช่น การใช้ระบบการระบายน้ำ การรดน้ำให้เดินเค็มเกิดจากอะไร

ดินเค็มหรือ Saline Soil เกิดจากดินที่มีปริมาณของเกลือที่ละลายอยู่ในสารละลายดินมากจนเกินไป [1] ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้:

  1. การระเหยของน้ำ: เมื่อน้ำฝนหรือน้ำที่มีเกลือละลายไหลผ่านดิน และน้ำไหลไปยังชั้นน้ำบาดาล จะทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของเกลือในดิน ซึ่งส่งผลให้ปริมาณเกลือในดินเพิ่มขึ้น และเมื่อน้ำระเหยไป จะทำให้เกลือคงอยู่ในดิน และสะสมไว้ในชั้นบนสุดของดิน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักในการเกิดดินเค็มในพื้นที่ที่มีปริมาณน้ำฝนน้อย [1]

  2. การใช้น้ำในการเกษตร: การใช้น้ำในการเกษตรโดยไม่มีการจัดการให้เกิดการระบายน้ำที่เหมาะสม อาจทำให้เกิดการสะสมของเกลือในดิน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการใช้น้ำจากแหล่งน้ำที่มีปริมาณเกลือสูง เช่น น้ำทะเลหรือน้ำบาดาลที่มีเกลือ [1]

  3. การใช้ปุ๋ยเคมี: การใช้ปุ๋ยเคมีที่มีปริมาณเกลือสูงในการเพิ่มปริมาณธาตุอาหารให้กับพืช อาจทำให้เกิดการสะสมของเกลือในดิน ซึ่งส่งผลให้เกิดการเคลื่อนที่ของเกลือในดินและเพิ่มปริมาณเกลือในดิน [1]

  4. การเคลื่อนย้ายน้ำในดิน: การเคลื่อนย้ายน้ำในดินที่มีปริมาณเกลือสูง อาจทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของเกลือในดินและสะสมเกลือในชั้นบนสุดของดิน [1]

การแก้ปัญหาดินเค็ม

การแก้ปัญหาดินเค็มสามารถทำได้โดยใช้วิธีต่างๆ ซึ่งสามารถปรับปรุงคุณภาพดินและลดปริมาณเกลือในดินได้ ดังนี้:

1


Learn more:

  1. การเกิดดินเค็มและวิธีแก้ปัญหาดินเค็ม

ดินเค็ม วิธีแก้

เรื่อง ดินเค็ม วิธีแก้ เป็นปัญหาที่หลายคนพบเจอเมื่อปลูกพืชหรือทำสวน ดินเค็มหมายถึงดินที่มีปริมาณเกลือสูงเกินไป ซึ่งส่งผลให้พืชไม่สามารถเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่ แต่ไม่ต้องกังวล เพราะมีวิธีแก้ไขที่สามารถนำมาใช้ได้ ในบทความนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับวิธีแก้ปัญหาดินเค็มอย่างละเอียด โดยใช้ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง [1] [2]

ดินเค็มคืออะไร?

ดินเค็มหมายถึงดินที่มีปริมาณเกลือสูงเกินไป ซึ่งเกลือประกอบด้วยสารเคมีต่างๆ เช่น โซเดียม (Na) และแคลเซียม (Ca) ซึ่งเมื่อมีปริมาณเกลือสูงในดิน จะทำให้พืชไม่สามารถดูดซึมน้ำและอาหารได้อย่างเพียงพอ ทำให้พืชเจริญเติบโตช้าหรือไม่เจริญเติบโตเลย นอกจากนี้ ดินเค็มยังส่งผลให้พืชมีความเสียหายจากการสะสมสารพิษในระยะยาว

วิธีแก้ปัญหาดินเค็ม

1. การล้างดิน (Leaching)

การล้างดินเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดปริมาณเกลือในดิน วิธีการนี้เป็นการใช้น้ำให้มากพอที่จะล้างเกลือออกจากดิน โดยการรดน้ำให้มากพอที่จะเจือจางเกลือในดิน และให้น้ำไหลผ่านดินไปยังชั้นน้ำใต้ดิน ซึ่งจะช่วยล้างเกลือออกไปจากพื้นที่ที่มีปัญหาดินเค็ม [1]

2. การใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก

การใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับดิน เมื่อใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปในดิน จะช่วยเพิ่มปริมาณสารอินทรียวัตถุในเรื่อง ดินเค็ม วิธีแก้ เป็นปัญหาที่หลายคนพบเจอเมื่อปลูกพืชหรือทำสวน ดินเค็มหมายถึงดินที่มีปริมาณเกลือสูงเกินไป ซึ่งส่งผลให้พืชไม่สามารถเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่ แต่ไม่ต้องกังวล เพราะมีวิธีแก้ไขที่สามารถนำมาใช้ได้ ในบทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับวิธีแก้ดินเค็มที่มีประสิทธิภาพ โดยอ้างอิงจากผลการค้นหาในเว็บไซต์ต่างๆ [1][2]

วิธีแก้ดินเค็ม:

  1. การล้างดิน (Leaching): วิธีนี้ใช้สำหรับดินที่มีปริมาณเกลือสูง โดยการให้น้ำไหลผ่านดินเพื่อล้างเกลือออกไป วิธีนี้สามารถทำได้โดยการรดน้ำให้มากพอที่จะไหลผ่านดินและออกไปจากพื้นที่ แต่ต้องระวังให้ดินไม่เป็นน้ำขังเพราะอาจทำให้เกิดปัญหาอื่นๆได้

  2. การใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก: การใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงในดินเค็มจะช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์และปรับปรุงคุณภาพของดินได้ ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักจะช่วยเพิ่มสารอินทรียวัตถุในดิน ทำให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์และสามารถเก็บเอาไว้ในระยะยาวได้

  3. การใช้วิธีการปรับสภาพดิน: วิธีนี้เป็นการปรับปรุงสภาพดินให้เหมาะสมสำหรับการปลูกพืช โดยใช้วิธีการเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน โดยการใส่ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยเคมีที่เหมาะสม และการใช้วิธีการปรับสภาพดินอื่นๆ เช่น การใช้ปูนขาวหรือปูนมาร์ลเพื่อลดความเป็นกรดของดิน

  4. การใช้เทคโนโลยีช่วย: ในบางกรณีที่ปัญหา


Learn more:

  1. ดินแย่… แก้ไขได้ ด้วยวิธีการ แบบนี้!! – ปุ๋ยตรามงกุฎ
  2. แก้ดินเค็ม ปรับปรุงดินไม่ดี ให้อุดมสมบูรณ์และปลูกผักงาม – บ้านและสวน
  3. การใช้ยิปซัมแก้ปัญหาดินเค็ม – KUBOTA (Agri) Solutions
ดินเค็ม - รวมข่าวเกี่ยวกับ
ดินเค็ม – รวมข่าวเกี่ยวกับ “ดินเค็ม” เรื่องราวของดินเค็ม
ดินเค็ม - รวมข่าวเกี่ยวกับ
ดินเค็ม – รวมข่าวเกี่ยวกับ “ดินเค็ม” เรื่องราวของดินเค็ม
แก้ดินเปรี้ยวดินเค็ม ราคาถูก ซื้อออนไลน์ที่ - ธ.ค. 2023 | Lazada.Co.Th
แก้ดินเปรี้ยวดินเค็ม ราคาถูก ซื้อออนไลน์ที่ – ธ.ค. 2023 | Lazada.Co.Th
ดินเค็ม - รวมข่าวเกี่ยวกับ
ดินเค็ม – รวมข่าวเกี่ยวกับ “ดินเค็ม” เรื่องราวของดินเค็ม
ดินเค็ม ปลูกพืชอะไรได้บ้าง : เกษตรอินทรีย์แบบพอเพียง
ดินเค็ม ปลูกพืชอะไรได้บ้าง : เกษตรอินทรีย์แบบพอเพียง
โครงการพระราชดำริในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง -  โครงการสาธิตการปลูกพืชในพื้นที่ดินเค็มอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.ตาจั่น  อ.คง จ.นครราชสีมา
โครงการพระราชดำริในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง – โครงการสาธิตการปลูกพืชในพื้นที่ดินเค็มอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.ตาจั่น อ.คง จ.นครราชสีมา
ดินเค็ม - รวมข่าวเกี่ยวกับ
ดินเค็ม – รวมข่าวเกี่ยวกับ “ดินเค็ม” เรื่องราวของดินเค็ม
ดินเค็ม - รวมข่าวเกี่ยวกับ
ดินเค็ม – รวมข่าวเกี่ยวกับ “ดินเค็ม” เรื่องราวของดินเค็ม
มลพิษในดิน เกิดจากสาเหตุใดบ้าง และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไร
มลพิษในดิน เกิดจากสาเหตุใดบ้าง และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไร
ดินเค็ม - รวมข่าวเกี่ยวกับ
ดินเค็ม – รวมข่าวเกี่ยวกับ “ดินเค็ม” เรื่องราวของดินเค็ม
Acid Soil แปลว่า? | Wordy Guru
Acid Soil แปลว่า? | Wordy Guru
โครงการพระราชดำริในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง -  โครงการสาธิตการปลูกพืชในพื้นที่ดินเค็มอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.ตาจั่น  อ.คง จ.นครราชสีมา
โครงการพระราชดำริในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง – โครงการสาธิตการปลูกพืชในพื้นที่ดินเค็มอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.ตาจั่น อ.คง จ.นครราชสีมา

See more here: chungcueratown.net

สารบัญ

ความหมายของดินเค็ม
สมบัติและลักษณะของดินเค็ม
สาเหตุที่เกิดดินเค็ม
ผลกระทบของดินเค็มต่อพืชและการเกษตร
วิธีการจัดการดินเค็ม
การวัดและประเมินความเค็มของดิน
การปรับปรุงดินเค็มให้เหมาะสมสำหรับการเพาะปลูก
Rate this post

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *